Doraemon Thai Wiki
Advertisement
Doraemon Thai Wiki
โดราเอมอน: ท่องแดนเวทมนตร์
Nobita's Great Adventure into the Underworld - Movie cover
ภาษาญี่ปุ่น: ドラえもん のび太の魔界大冒険
Rōmaji: Nobita no Makai Dai Bōken
ข้อมูลภาพยนตร์
กำกับโดย: Tsutomu Shibayama
เขียนโดย: ฟูจิโอะ เอฟ. ฟูจิโอะ
วันเข้าฉาย: Flag of Japan 17 มีนาคม ค.ศ. 1984
เพลงประกอบ: เพลงเปิด: โดราเอมอน โนะ อุตะ (ドラえもんのうた)
เพลงปิด: ลมแห่งเวทมนตร์ (風のマジカル)
จัดจำหน่ายโดย: Toho
สตูดิโอ: Shin-Ei Animation
ระยะเวลา: 99 นาที
ประเทศ: ญี่ปุ่น
Box Office: 1.65 พันล้านเยน
ก่อนหน้า
โดราเอมอน: ผจญภัยใต้สมุทร
ถัดไป
โดราเอมอน: สงครามอวกาศ

บทความนี้เกี่ยวกับภาพยนตร์ปี 1984 สำหรับภาพยนตร์ปี 2007 ดูที่ โดราเอมอน: โนบิตะตะลุยแดนปีศาจ 7 ผู้วิเศษ

โดราเอมอน: ตะลุยแดนปีศาจ (ドラえもん のび太の魔界大冒険 Doraemon Nobita no Makai Daibōken) หรือ ท่องแดนเวทมนตร์ เป็น โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ ลำดับที่ 5 เข้าฉายในประเทศญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 17 มีนาคม ต.ศ. 1984 โดยมีภาพยนตร์รีเมคลำดับที่สองคือ โดราเอมอน: โนบิตะตะลุยแดนปีศาจ 7 ผู้วิเศษ ในปี ค.ศ. 2007

เนื้อเรื่องอย่างละเอียด[]

สร้างโลกแห่งเวทมนตร์ขึ้นมา[]

เริ่มเรื่องด้วยความฝันของโนบิตะที่เขาจะไปช่วยชิซุกะที่ถูกจับอยู่ในปราสาทของจอมปีศาจ แต่โดราเอมอนบอกให้ล้มเลิก เขาจึงไปคนเดียว แต่ด้วยความยากลำบากเขาจึงเกือบจะล้มเลิก แต่โดรามีปรากฏตัวมาพร้อมกับเอาหมวกเวทมนตร์ที่โดราเอมอนฝากมาให้โนบิตะเพื่อให้ใช้เวทมนตร์ได้ โนบิตะจึงเสกพรมวิเศษออกมาช่วยชิซุกะ เมื่อปีศาจปรากฏตัวทั้งคู่จึงหนีออกมาโดยใช้พรมวิเศษ แต่ปีศาจตนหนึ่งเสกให้เป็นพรมเช็ดเท้า และปีศาจอีกตนหนึ่งก็ได้ขยายร่างเพื่อจะบี้ แต่เนื่องจากปีศาจเป็นไจแอนท์ โนบิตะจึงเสกตัวเองเป็นแม่ไจแอนท์ ปีศาจจึงหนีไป ระหว่างที่ทั้งคู่กำลังขี่ไม้กวาดคุณแม่ได้เรียกโนบิตะให้ตื่นระหว่างที่กำลังกวาดสวนอยู่ และใช้ให้ไปซื้อของต่อ โนบิตะจึงได้ลองทำให้ไม้กวาดทำความสะอาดเอง แต่ก็ไม่ได้ (ก็แน่ล่ะ ไม่มีเวทมนตร์) และโดราเอมอนก็ยุ่งอยู่กับการเอาพรมไปทิ้งที่ที่ทิ้งขยะ โนบิตะก็ลองให้ยักษ์ในตะเกียงในที่ทิ้งขยะออกมา โดราเอมอนก็บอกว่าทำอะไรไร้สาระ และขณะนั้นรูปปั้นหินโดราเอมอนก็ร่วงลงมาทับ เมื่อเอาไปตั้งไว้ที่บ้านปรากฏว่ารูปปั้นเหงื่อแตกโนบิตะเลยเอาไปเล่าให้โดราเอมอน แต่ก็ไม่เชื่อคิดว่าคิดมากเกินไป สักพักไจแอนท์และซึเนะโอะมาชวนโนบิตะเล่นเบสบอล ระหว่างที่กำลังเล่นโนบิตะเหม่อลอยจนทำอะไรผิดพลาดไปหมด ภายหลังโนบิตะจึงได้บอกความในใจให้โดราเอมอนและชิซุกะว่ากำลังนึกถึงเวทมนตร์คาถา ทั้งสองจึงบอกว่าเวทมนตร์ไม่มีอยู่จริง จึงได้ลองไปถามเดคิสุงิ ก็ได้ความว่าเวทมนตร์เคยมีอยู่แต่ปัจจุบันพ่อมดและแม่มดถูกล่าไปหมดแล้วเนื่องจากเป็นการยืมพลังของปีศาจมาและเวทมนตร์ก็เลยกลายเป็นเรื่องงมงายไป (สรุปว่าก็คือไม่มี) เย็นนี้โนบิตะจึงไปนั่งบ่นที่ภูเขาหลังโรงเรียนว่าถ้าเวทมนตร์รุ่งโรจน์คงสุขสบายไปแล้ว และก็ได้พบว่าไม้กวาดบ้านเขาและรูปปั้นหินตัวเขาก็ร่วงลงมาด้วย จึงเอากลับมาบ้านด้วย ในคืนนั้นโนบิตะและโดราเอมอนได้ยินเสียงประหลาดมาจากชั้นล่างและได้พบว่าประตูครัวเปิดทิ้งไว้และรูปปั้นหินเข้ามาในบ้าน พ่อและแม่จึงให้เอาออกไปวางไว้ที่สวนตามเดิม และฝนก็ตก ต่อมาโนบิตะคิดได้ว่าสามารถใช้ตู้โทรศัพท์สมมติเพื่อเปลี่ยนโลกให้เป็นโลกแห่งเวทมนตร์ พวกเขาจึงเปลี่ยนให้เป็นโลกเวทมนตร์แต่ก็ใช้อะไรไม่ได้สักอย่าง

เช้าวันต่อมาโดราเอมอนพบว่ารูปปั้นหินได้หายไปแล้วและเห็นหลาย ๆ บ้านมากใช้พรมวิเศษจึงเรียกโนบิตะมาดู ซึ่งสรุปได้ว่าเป็นโลกแห่งเวทมนตร์แล้ว และคุณแม่ก็ใช้เวทมนตร์ในการทำอาหาร แต่แล้วโนบิตะก็ผิดหวังที่บ้านไม่มีพรมวิเศษ โนบิตะจึงต้องเดินไปโรงเรียนเหมือนเดิม ที่โรงเรียนโนบิตะไม่สามารถใช้แม้กระทั่งเวทมนตร์พื้นฐานได้เลย ในขณะที่เพื่อนคนอื่น ๆ ทำได้หมด โนบิตะจึงถูกครูให้อยู่เย็น ที่บ้านคุณแม่และโดราเอมอนดูโฆษณาซึ่งที่บ้านไม่มีปัญญาซื้อ และโมโหที่โนบิตะยังไม่กลับมาเพราะอาจจะถูกทำโทษ โดราเอมอนไปเอาตัวกลับมา และโนบิตะก็ถูกคุณแม่ดุต่อ โนบิตะถอดใจเพราะเหมือนกับโลกเดิมเปี๊ยบจึงจะทำให้กลับเป็นเหมือนเดิม แต่ไจแอนท์กับซึเนะโอะมาชวนขี่ไม้กวาดก่อน ซึ่งก็ได้เหน็บทีหลังว่าเขาขี่ไม้กวาดไม่เป็น โนบิตะเจ็บใจจึงอยากจะฝึกเวทมนตร์ให้เป็นสักอย่างก่อนที่จะกลับเป็นโลกเดิม โนบิตะฝึกลอยก้อนหินแต่ก็ยังทำไม่ได้จนชิซุกะเข้ามา เขาสามารถใช้เวทมนตร์พัดกระโปรงชิซุกะให้ลอยขึ้น ชิซุกะโกรธเขามากโนบิตะจึงขอโทษ และแผ่นดินไหวก็เกิดขึ้นซึ่งในโลกเวทมนตร์เกิดขึ้นบ่อยมาก แต่เนื่องจากโนบิตะมาจากอีกโลกหนึ่งจึงไม่รู้เรื่องอะไรเลย ชิซุกะจึงขี่ไม้กวาดไปหาดอกเตอร์มังเงะสึและสอนโนบิตะให้ขี่ได้ แต่โนบิตะทรงตัวไม่ได้จึงขี่หลังชิซุกะไป ส่วนโดราเอมอนติดคอปเตอร์ไม้ไผ่จากวิทยาศาสตร์ที่งมงาย (ในโลกเวทมนตร์) ทั้งสามได้เดินทางไปภูเขาทาคาอิ ซึ่งไจแอนท์กับซึเนะโอะก็มาด้วย ทั้งสองกำจังไล่จับลิงและถูกช็อคโดยมันในเวลาต่อมา ชิซุกะได้ใช้เวทมนตร์ลอยไจแอนท์และซึเนะโอะ แต่ทั้งคู่หนักเกินไปจึงขอให้โนบิตะช่วย แต่เขาก็ยกอะไรไม่ได้เลยนอกจากเปิดกระโปรง โดราเอมอนได้พบคฤหาสน์ในป่าจึงได้พาทั้งสองไปที่คฤหาสน์นั้น ซึ่งได้พบกับดอกเตอร์มังเงะสึ ดอกเตอร์ให้มิโยโกะปฐมพยาบาลไจแอนท์และซึเนะโอะ ส่วนที่เหลือพักดื่มน้ำชากับดอกเตอร์ ดอกเตอร์ได้พูดถึงทฤษฎีการคืบใกล้ของแดนปีศาจซึ่งไม่มีคนเชื่อ ดอกเตอร์บอกว่านี่เป็นสิ่งที่ควรจะรับรู้ซึ่งเมื่อแดนปีศาจใกล้เข้ามาจะเกิดภัยภิบัติอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนและอวสานของโลก หลังจากนั้น มิโยโกะพาห้าคนไปส่งในเมือง เมื่อโนบิตะและโดราเอมอนกลับถึงบ้านพวกเขากำลังจะใช้โทรศัพท์สมมติกลับเป็นโลกเดิม แต่คุณแม่เอามันไปทิ้งแล้ว โดราเอมอนจึงออกไปดูและปรากฏว่าพังรวมกับขยะอื่นแล้ว โนบิตะกับโดราเอมอนจึงโกรธกันนับตั้งแต่บัดนั้น แต่ในคืนนั้นเองพวกเขาได้ตระหนักว่าเพื่อนกันต้องไปด้วยกันจึงได้คืนดีกัน ส่วนที่บ้านของดอกเตอร์ ดอกเตอร์ได้ค้นพบหนังสือลับ (เรียกว่าประวัติแดนปีศาจในมังงะ) ของนัลเนียเดส แต่หลังจากนั้นดอกเตอร์และบ้านของเขาถูกลิงปีศาจลักพาตัวเข้าไปในไฮเปอร์สเปซเพื่อไปยังดาวแดนปีศาจ ส่วนมิโยโกะหลบหนีออกมาได้ แต่ก็ถูกสาปให้เป็นแมว

แดนปีศาจคืบใกล้เข้ามา[]

โดราเอมอนได้ยินเสียงแมวจึงได้ออกไปดูจากหน้าต่าง แมวตัวนั้นกระโดดเข้ามา เมื่อดวงจันทร์ปรากฏออกมาแมวก็เปลี่ยนร่างเป็นมิโยโกะ ซึ่งมาขอให้โดราเอมอนและเพื่อน ๆ ร่วมกันล้มจอมปีศาจเดมาออน (ในพากย์ไทยไม่ปรากฏชื่อจอมปีศาจ) ซึ่งพวกเขาเป็นผู้ถูกเลือก วันต่อมาได้เกิดพายุขนาดยักษ์ทั่วโลก โนบิตะจึงตัดสินใจไปปราบจอมปีศาจร่วมกับมิโยโกะ เมื่อเข้าไปถึงในป่า ทั้งสองก็ถูกดึงโดยมิโยโกะให้เข้ามาอยู่ในโลกแห่งความลับเนื่องจากมีปีศาจออกมาลาดตระเวน เนื่องจากมิโยโกะพูดภาษาคนในร่างแมวไม่ได้และตอนกลางวันไม่มีแสงจันทร์โดราเอมอนจึงใช้วุ้นแปลภาษาเพื่อให้ฟังกันรู้เรื่อง จากนั้นปีศาจได้ตามชิซุกะมามิโยโกะจึงออกจากเขตลับมาสู้กับปีศาจ มิโยโกะใช้คาถาเรียกไฟไล่ได้แต่ปีศาจใช้คาถาเรียกน้ำทำให้น้ำท่วมป่า มิโยโกะได้ต่อสู้กับปีศาจต่อแต่พลาดพลั้งโดราเอมอนจึงใช้ผ้าคลุมโบกพลิ้วสะท้อนคาถากลับ สุดท้ายไจแอนท์และซึเนะโอะได้มาร่วมกลุ่มด้วย โดราเอมอนใช้หมวกเวทมนตร์ที่ไม่มีประโยชน์ออกมาใส่และมิโยโกะได้เอาหนังสือลับและพรมวิเศษออกมาเพื่อไปแดนปีศาจ

เดินทางไปยังแดนปีศาจ[]

ในอวกาศโลกเวทมนตร์นั้นแตกต่างจากโลกจริงที่ยังหายใจได้ มีกระต่ายบนดวงจันทร์จริง ๆ และไปยืนหรือนั่งบนวงแหวนดาวเสาร์ได้ หลังจากที่พวกเขากินข้าวบนดาวเสาร์แล้วพวกเขาได้ลงไปอยู่ในพรมเพื่อพักผ่อน หนึ่งสัปดาห์ (ในฉบับมังงะเป็นหนึ่งเดือน) ผ่านไปพวกเขาได้เข้าใกล้ดาวแดนปีศาจที่ถูกปกคลุมด้วยเปลวไฟสีดำสนิท ซึ่งมีรูเปิดที่ขั้วโลกใต้ พวกเขาเข้าไปได้สำเร็จแต่พรมไฟไหม้หมดแล้ว จึงหนีออกไปด้วยคอปเตอร์ไม้ไผ่แล้วซ่อนตัว จากนั้นไม่นานพวกปีศาจก็ได้มาดูซากพรม หลังจากที่พวกปีศาจไปทุกคนก็หนาวจนตัวสั่นเพราะความหนาวเย็นที่ขั้วโลกใต้ มิโยโกะจึงใช้คาถาเรียกไฟให้ความอบอุ่นแต่ได้แค่แป๊ปเดียว ทุกคนจึงต้องใช้คอปเตอร์ไม้ไผ่หนีออกไปจากขั้วโลกใต้ แต่ก็เจอพายุหิมะและโนบิตะก็หลับไป โนบิตะฝันว่าหิมะอุ่นโดราเอมอนจึงคิดได้แล้วหยิบเอา ครีมตรงกันข้าม มาทาเพื่อให้ร่างกายอบอุ่นจนพ้นขั้วโลกใต้ แต่ปัญหาในทะเลคือปีศาจนางเงือกที่บรรเลงเพลงไพเราะมากจนตัวจะถูกดูดและปลาวาฬกินคน ซึ่งแม้โดราเอมอนจะใช้ปลาสเตอร์ปิดหูก็ไม่ได้ผล เดชะบุญที่ไจแอนท์ร้องเพลงกลบเสียงนางเงือกทุกคนถึงได้รอดตาย เมื่อถึงฝั่งเมืองปีศาจทุกคนเลี่ยงเมืองเพื่อขึ้นฝั่งไปยังทุ่งไม่หวนกลับ ก่อนที่จะผจญภัยกันต่อพวกเขาพักกินข้าวโดยใช้ผ้าคลุมโต๊ะลมเหนือของมิโยโกะ หลังจากกินเสร็จแล้วพวกเขาได้บินตรงไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือซึ่งเป็นที่ตั้งของปราสาทจอมปีศาจ แต่ทว่าบินเท่าไรก็ไม่ถึงต้นไม้ ต้นไม้ใบหญ้ารวมถึงก้อนหินเคลื่อนไหวได้หมด และเข็มทิศแกว่งไม่หยุด ตกกลางคืนพวกเขาเห็นโครงกระดูกที่เห็นตอนกลางวัน และลงไปพัก แต่ทว่าไฮยีน่าได้ล้อมเอาไว้หมด โดราเอมอนจึงใช้ลำแสงถนนเดินทางไปปราสาทจอมปีศาจเดมาออน

ตอนเช้า พวกเขาหลุดออกมาจากทุ่งไม่หวนกลับแต่มาอยู่ในป่าทึบที่มีแต่สัตว์ประหลาด สัตว์ประหลาดปรากฏตัวมามิโยโกะจึงสร้างโลกแห่งความลับและเรียกทุกคนเข้ามา แต่สัตว์ประหลาดได้นั่งลงพวกเขาจึงใช้หมวกก้อนหินให้ไม่มีใครสนใจ และเพื่อไม่ให้กระจัดกระจายกันโดราเอมอนจึงยิงจรวดส่องแสงให้ทุกคนไปทางเดียวกัน เมื่อออกจากป่าคอปเตอร์ไม้ไผ่ของทุกคนแบตเตอรี่หมด แต่ก็ถึงปราสาทของจอมปีศาจกันแล้ว จากนั้นมิโยโกะแจกลูกดอกเงินเพื่อปักที่หัวใจของจอมปีศาจคนละสองดอก แล้วเกาะกลุ่มกันขึ้นไปหอตรวจการณ์ เมื่อทั้งหกเจอจอมปีศาจเดมาออนแล้วมิโยโกะบอกว่าจะไว้ชีวิตถ้าไม่บุกโลก จอมปีศาจบอกว่าละทิ้งไม่ได้เนื่องจากพวกเขาหมายปองกันมานานแล้ว ทั้งหกจึงได้ปักลูกดอกเงินที่หน้าอก แต่จอมปีศาจไม่สะทกสะท้านเลย จากนั้นได้ใช้เวทมนตร์พัดพวกโนบิตะออกไปจากปราสาท แล้วสั่งให้ลูกสมุนตามไปจัดการ พวกโนบิตะจึงใส่หมวกก้อนหินแล้วหนีไป แต่ไจแอนท์ ซึเนะโอะ และชิซุกะก็หนีไม่พ้น ส่วนหมวกหินของโนบิตะได้ขาดออกมิโยโกะจึงดึงเขาเข้ามาซ่อน แล้วเอาหมวกกับหนังสือลับให้โนบิตะแล้วตัวเองก็สู้กับปีศาจ แล้วโนบิตะก็หนีไปที่ป่า

แก้ไขอดีต[]

โดราเอมอนกับโนบิตะเท่านั้นที่รอดมาได้ พวกเขาคิดได้ว่าควรจะไปหยุดพวกเขาเองก่อนที่จะใช้โทรศัพท์สมมติโดยเอาลิ้นชักของโนบิตะเพื่อนั่งไทม์แมชชีน จอมปีศาจสังเกตได้จึงส่งเมดูซ่าไปจัดการ เมื่อโนบิตะและโดราเอมอนกลับมาในโลกก่อนที่พวกเขาจะเปลี่ยนให้เป็นโลกเวทมนตร์ ระหว่างที่พวกเขาจะตามไปก็พบว่าปีศาจไล่ตามมา พวกเขาจึงขี่ไม้กวาดหนีแต่ก็ถูกสาปเป็นหินในที่สุด โดยโดราเอมอนตกลงที่ทิ้งขยะและโนบิตะตกลงไปบนต้นไม้ที่ภูเขาหลังโรงเรียน โนบิตะและโดราเอมอนในเวลานั้นจึงได้เอามาไว้ที่สวนหลังบ้าน เมื่อพระจันทร์ฉายแสงลงมาบนพื้นโลกทั้งคู่กลับเป็นร่างเดิมก่อนจะกลายเป็นหินอีกครั้งเมื่อเมฆบังแสงจันทร์ และก็ถูกเอาไว้ที่สนามเหมือนเดิม

ที่ปราสาทของจอมปีศาจมิโยโกะได้พบคุณพ่อและกลับเป็นร่างเดิม แต่ก็ถูกจับอยู่ในคุกใต้ดินร่วมกับชิซุกะ ไจแอนท์ และซึเนะโอะ มิโยโกะยังหวังว่าโดราเอมอนกับโนบิตะจะมาช่วย แต่พวกปีศาจบอกว่าทั้งสองคนถูกสาปเป็นหินไปแล้ว และวันต่อมาดาวปีศาจจะประชิดโลก พวกปีศาจจึงได้ฉลองชัยล่วงหน้าโดยเอาทั้งห้าคนไปทำเป็นอาหารจานเด็ด ส่วนโดราเอมอนกับโนบิตะก็ได้รับความชวยเหลือจากโดรามี ซึ่งได้รับรู้ว่าโดราเอมอนเดือดร้อนโดยเครื่องเตือนเหตุร้ายรูปแมลง เมื่อมาถึงก็พบว่ากลายเป็นหินเลยใช้ผ้าคลุมกาลเวลาทำให้เป็นเหมือนเดิม โดราเอมอนกับโนบิตะเลยบอกโดรามิถึงเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นมาโดรามีจึงเอาโทรศัพท์สมมติออกมาเพื่อที่จะทำให้กลับเป็นโลกเดิม แต่โนบิตะก็คิดได้ว่าเพื่อน ๆ ยังอยู่ที่แดนปีศาจจึงต้องกลับไปช่วยเหลือ ระหว่างที่ย้อนเวลากลับไปโนบิตะได้ถอดความส่วนที่มิโยโกะยังไม่ได้ถอด (ด้วยวุ้นแปลภาษาของโดรามี) จึงได้ความว่าหัวใจของเดมาออนอยู่ในอวกาศ

ค้นหาหัวใจจอมปีศาจ[]

เมื่อมาถึงแดนปีศาจโดราเอมอนได้ส่งดาวเทียมไปสอดแนมที่ปราสาทของแดนปีศาจก็พบว่ามิโยโกะและทุกคนถูกล่ามด้วยโซ่เวทมนตร์ ทหารสองดาวเข้ามาบอกว่าเอาเด็กผู้หญิง (มิโยโกะ) มาแล่ดีกว่า แต่พ่อครัวดาวเดียวบอกว่าจะเอามาต้มยำ (หมายเหตุ: ต้นฉบับทหารสองดาวต้องการนำมาอบ แต่พ่อครัวดาวเดียวบอกว่าจะทอด) แต่เนื่องจากปีศาจดาวน้อยกว่าต้องทำตามปีศาจดาวมากกว่า และทันใดนั้นมีการจุดดอกไม้ไฟเกิดขึ้นเพื่อเบนความสนใจปีศาจ โดราเอมอนและโนบิตะมาช่วยทุกคน พอลอดผ่านห่วงผ่านตลอดเขาเจอทหารปีศาจ แต่เนื่องจากโดราเอมอนใส่หมวกที่ดาวเต็มไปหมดจึงรอดตาย จากนั้นทุกคนได้นั่งพรมหนีออกจากดาวเพื่อตามหาหัวใจของจอมปีศาจ ทางจอมปีศาจรู้ว่าหนีไปได้จึงไล่ตามไป จอมปีศาจได้เอะใจว่าอาจจะไปหาหัวใจของเขา จึงได้โจมตีด้วยดวงดาวสายฟ้า ทุกคนจึงช่วยกันตอบโต้ดาวสายฟ้าจนใกล้ถึงหัวใจของจอมปีศาจ ลูกดอกดอกสุดท้ายอยู่ที่ไจแอนท์ ไจแอนท์ได้ขว้างลูกดอกเงินและโดรามิใช้ไฟฉายขยายส่วนขยายลูกดอก จอมปีศาจตายและหัวใจไปปะทะกับดาวปีศาจ ดาวปีศาจแตกระเบิด

ที่โลก โนบิตะกับมิโยโกะได้บอกลากับโนบิตะที่จะกลับโลกเดิม เมื่อกลับถึงบ้านโนบิตะทำให้โลกกลับเป็นโลกเดิม และโนบิตะก็ลองดูอีกทีโดยการใช้เวทมนตร์ยกกระโปรงชิซุกะ แล้วก็ยกจริง ๆ เพราะอาจจะเป็นลมพัดธรรมดา

ตัวละคร (ตามลำดับการปรากฎตัว)[]

ของวิเศษที่ใช้[]

นักพากย์ญี่ปุ่น[]

ภาพยนตร์รุ่น 1979
ภาพยนตร์รุ่น 2005
Advertisement