ภาษาญี่ปุ่น: | ドラえもん のび太のドラビアンナイト | ||
Rōmaji: | Doraemon: Nobita no Dorabian Naito | ||
ข้อมูลภาพยนตร์ | |||
กำกับโดย: | Tsutomu Shibayama | ||
เขียนโดย: | ฟูจิโอะ เอฟ. ฟูจิโอะ | ||
วันเข้าฉาย: | 9 มีนาคม พ.ศ. 2534 | ||
ดนตรีโดย: | Shunsuke Kikuchi | ||
เพลงประกอบ: | เพลงเปิด: โดราเอมอน โนะ อุตะ (ドラえもんのうた) เพลงปิด: เส้นทางแห่งฝัน (夢のゆくえ) | ||
จัดจำหน่ายโดย: | Toho | ||
ระยะเวลา: | 99 นาที | ||
ประเทศ: | ญี่ปุ่น | ||
Box Office: | 1.80 พันล้านเยน | ||
|
โดราเอมอน ตอน ตะลุยแดนอาหรับราตรี (ญี่ปุ่น: ドラえもん のび太のドラビアンナイト Doraemon: Nobita no Dorabian Night ?) เป็นโดราเอมอนฉบับภาพยนตร์การ์ตูนเรื่องยาว มีความยาวทั้งสิ้น 99 นาที ภาพยนตร์ชุดนี้ถือเป็นตอนที่ 12 ของโดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ ออกฉายครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 9 มีนาคม ค.ศ. 1991.
เนื้อเรื่องอย่างละเอียด[]
นิทานของโนบิตะ[]
โดราเอมอน และ โนบิตะ เข้าไปในนิทานที่อ่านแล้วอ่านอีกดูแล้วดูอีก โดราเอมอนก็นั่งเบื่อแต่โนบิตะตื่นเต้นตลอด ในตอนนั้นเป็นตอนที่ซินแบดติดอยู่ในหุบเขาที่เต็มไปด้วยเพชรนิลจินดา แต่มันก็ไม่มีความหมายถ้าออกไปจากหุบเขาไม่ได้ ไม่ว่าจะลองปีนกี่ครั้งก็ไม่สำเร็จ แต่ก็มีเนื้อตกลงมา ซินแบดกำลังจะกินแต่ก็มีนกยักษ์โฉบมาเอาเนื้อไปและทิ้งเนื้อลงไปให้คนที่อยู่ข้างบน ซินแบดจึงคิดออกว่าคนข้างบนใช้เนื้อล่อนกเพื่อเก็บเพชรพลอย เลยคิดว่าต้องทิ้งเนื้อลงมาอีกแน่ ๆ เมื่อเนื้อถูกปล่อยลงมาแล้วก็เอาเนื้อผูกมัดไว้กับตัว เมื่อนกมาก็สามารถออกจากหุบเขาได้สำเร็จ เมื่อจบแล้วโนบิตะกับโดราเอมอนก็ออกจากนิทาน ตอนแรกโนบิตะจะขอเอาเพชรพลอยไปด้วย โดราเอมอนเอามันทิ้งและบอกว่าเอากลับไปไม่ได้เพราะเป็นโลกสำหรับดูเท่านั้น เมื่อขึ้นมาโนบิตะเลือกว่าจะไปเล่มไหนต่อ แต่โดราเอมอนก็แกล้งหลับไป เรียกก็ไม่สนใจ
โนบิตะเลยไปชวนชิซุกะมาเล่นด้วย เมื่อวิ่งผ่านลานว่างไจแอนท์และซึเนะโอะถามโนบิตะว่ามีอะไรสนุก ๆ ทำไหม โนบิตะบอกว่าไม่มีและวิ่งหนีไป เมื่อมาเจอชิซุกะก็เห็นว่าจะไปแคมป์กับกลุ่มเปียโน แต่โนบิตะก็ยังจะชวนพาไปที่ที่สนุก ๆ เมื่อมาพบไจแอนท์โนบิตะก็พูดว่าเรื่องที่จะไปมันน่าเบื่อ เมื่อชิซุกะได้ยินก็หนีไปเพราะครูสอนเปียโนกำลังรออยู่ และไจแอนท์กับซึเนะโอะก็ดันโนบิตะเข้าบ้าน มาถึงโดราเอมอนก็ไม่อยู่ซะแล้ว โนบิตะเลยอธิบายเองว่าเข้าไปในโลกนิทาน ไจแอนท์และซึเนะโอะหัวเราะเยาะว่ายังกับเด็กเลย โนบิตะเลยบอกว่าแม้จะเป็นนิทานแต่สนุกเหมือนจริงเลย โนบิตะเลยเอานิทานมาให้ทั้งสองเลือก แต่แค่จับมันก็ออกมาเป็นชิ้น ๆ แล้วเพราะหนังสือมันเก่าแล้ว ต่อมาไจแอนท์และซึเนะโอะเลือกเรื่องแจ๊คผู้ฆ่ายักษ์ ส่วนรองเท้าทั้งสองบอกว่าถ้าโนบิตะใช้เป็น พวกเขาก็ทำได้ เลยเข้าไปทันที โนบิตะเตือนว่าแค่ดูเท่านั้นนะ ทันใดนั้นเองต้นถั่วยักษ์งอกออกมาไปถึงบนเมฆ และมีปราสาทของยักษ์ด้วย จากที่ซึเนะโอะเล่าว่าต่อไปแจ๊คจะปีนต้นถั่วมาไจแอนท์เลยพาแจ๊คที่กำลังปีนต้นถั่วข้ามไปยังหน้าสุดท้ายซะเลย ผิดกับที่โนบิตะบอกไว้ ทันใดนั้นชิซุกะมาหาเพราะจำวันไปตั้งแคมป์ผิด โนบิตะเลยเอารองเท้ามาเพิ่มจากกระเป๋าของโดราเอมอน และเลือกเรื่องพิน็อคคิโอ เมื่อเข้าไปก็พบกับตอนที่พิน็อคคิโอถูกนางฟ้าสาปให้เคลื่อนไหวได้ และเริ่มการผจญภัยเพื่อที่จะได้เป็นคน ทางไจแอนท์และซึเนะโอะตกใจเพราะเจอยักษ์และกระโดดข้ามหน้าไม่ได้ จากนั้นทั้งสองเลยลองเอาทุกเรื่องมาปนกันมั่ว
เพราะหนังสือนิทานเก่าแล้วและหลุดง่าย ทางโนบิตะและชิซุกะก็รู้สึกแปลก ๆ ที่มีฉากพายุและมีนางเงือก (ลิตเติลเมอร์เมด) มาช่วยคุณปู่ผู้สร้างพิน็อคคิโอ (พิน็อคคิโอหายไปไหน?) เมื่อช่วยแล้วก็กลับลงไปใต้ทะเล โนบิตะและชิซุกะตามไปด้วยก็พบกับปราสาทใต้บาดาล (อุราชิม่าทาโร่) ทางไจแอนท์และซึเนะโอะถูกปีศาจในนิทานวิ่งไล่จึงกลับขึ้นไป เพราะมีแต่แย่ ๆ เลยถอดรองเท้าทิ้งไว้แล้วกลับบ้าน ทางโนบิตะกับชิซุกะพบราชินีชั่วร้าย (สโนว์ไวท์) มาขายแอปเปิลให้กับแม่มดบ้านขนม (ฮันเซลกับเกรเทล) ต่อมาไปพบเรื่องอัสสึนโบชิไปปนกับเรื่องอื่นบ้าง ปีศาจตะเกียง (อะลาดิน) โผล่มาในนิทานญี่ปุ่นบ้าง โนบิตะรู้สึกตลกที่เรื่องเอามารวมกันเละเทะ แต่ชิซุกะขอกลับก่อน แต่ก็ไปสะดุดกับซินแบด (อาหรับราตรี) ที่ขี่พรมวิเศษทำให้รองเท้าหลุดไปข้างนึง คุณแม่มาเห็นกองนิทานเละเทะแถมถอดรองเท้าทิ้งไว้ด้วยเลยเรียกโนบิตะไปเทศน์อย่างยาวนาน หลังจากที่จบแล้วโนบิตะขึ้นห้องด้วยความอ่อนล้าเพราะถูกดุจนหูชา โดราเอมอนก็ยังจะบ่นอีกเพราะแอบเอากระเป๋าวิเศษมาใช้ โนบิตะเลยขอโดราเอมอนว่าอย่าเพิ่งเถอะ เพิ่งถูกแม่ดุมา โดราเอมอนเลยบอกว่าค่อยมาเคลียร์ทีหลัง
ชิซุกะหายตัวไปในนิทาน[]
วันต่อมาโดราเอมอนนึกแล้วนึกอีกเพราะเข้าไปสี่คนแต่มีรองเท้าแค่สามคู่ แสดงว่าต้องมีใครหายไปแน่นอน โดราเอมอนเลยบอกให้โนบิตะเอานิทานมาเช็คดูทุกหน้า ระหว่างที่ดูโนบิตะติดคอปเตอร์ไม้ไผ่เพื่อที่จะไปหาเพื่อน ๆ ทุกคน ก็พบว่าไจแอนท์และซึเนะโอะกำลังจับแมลงที่ภูเขาหลังโรงเรียน เมื่อไปถามคุณแม่ของชิซุกะก็ว่าไปเที่ยว โนบิตะจึงบอกว่าทุกคนกลับมาแล้ว แต่โดราเอมอนไปเจอรองเท้าหนึ่งข้างในนิทานอาหรับราตรี ซึ่งมีรองเท้าข้างเดียวจะกลับไม่ได้ โนบิตะเลยบอกว่ามีเฉพาะชิซุกะที่ยังไม่เจอ คุณแม่เห็นโดราเอมอนกับโนบิตะไปที่อื่นก็โมโหว่าเอาแต่เล่น เมื่อขึ้นไปก็พบหนังสือนิทานเต็มไปหมด เลยเอาไปเผาทิ้ง โนบิตะกับโดราเอมอนเข้าไปที่บ้านชิซุกะแล้วบังเอิญมีโทรศัพท์มาจากครูสอนเปียโนก็เลยบอกว่าชิซุกะไปไม่ได้ และสักพักคุณแม่ของชิซุกะกลับมาหาเลยออกจากบ้านไปเพื่อที่จะเข้าไปในนิทาน แต่ทว่าหนังสือนิทานถูกคุณแม่เผาไปเรียบร้อยแล้ว โนบิตะโมโหคุณแม่มากว่าทำไมทำอย่างนี้ คุณแม่ก็บอกว่าถ้าเป็นของสำคัญก็เก็บไว้ให้ดี ๆ สิ แล้วบอกว่าไปทำการบ้านซะอย่างเลือดเย็น โนบิตะเลยบอกว่าใช้ไทม์แมชชีนไปหาชิซุกะก็ได้ แต่โดราเอมอนบอกว่าโลกนิทานไปไม่ได้หรอก โนบิตะกับโดราเอมอนเลยโยนความผิดใส่กันและโนบิตะก็ยอม จะบอกความจริงกับคุณแม่ของชิซุกะก็พูดไม่ออก เมื่อคุณแม่ของชิซุกะเปิดประตูออกมาแล้วโนบิตะก็บินไปที่อื่นไปงีบหลับในสวนสาธารณะ และฝันว่าชิซุกะอยู่ในเรือค้าทาส เลยรีบบินกลับบ้านไปหาโดราเอมอน แต่โดราเอมอนกำลังใช้สารานุกรมครอบจักรวาลเพื่อค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับอาหรับราตรี และก็พบว่านิทานอาหรับราตรีมีอยู่ 260 เรื่อง บางเรื่องก็แต่งขึ้นมาส่วนบางเรื่องมีอยู่จริง ๆ ด้วย ซึ่งมีตัวละครอยู่ 2 คนที่มีอยู่จริงคือ พระราชาฮารุน อัล ราซิด กับ มหาอุปราชจาฟาล ดังนั้น เมื่อไปอาหรับยุคนั้นอาจจะสามารถโยงเข้ากับนิทานได้ด้วย
โนบิตะเลยไปบอกความจริงไจแอนท์กับซึเนะโอะและโดราเอมอนเรียกหุ่นยนต์ไกด์มาด้วย เมื่อมาถึงมิคุจิน ไกด์ของบริษัทท่องเที่ยวเวลาเอาอุปกรณ์ที่จะเป็นในการไปอาหรับราตรี โดยโดราเอมอนเล่นบทบาทเป็นพ่อค้า โนบิตะเป็นผู้ติดตาม และไจแอนท์กับซึเนะโอะเป็นคนรับใช้ ไจแอนท์และซึเนะโอะอิจฉาว่าทำไมไม่ให้เป็นพ่อค้า หน้าอย่างโดราเอมอนนี่เห็นเป็นคนเหรอ จากนั้นทุกคนก็ออกเดินทางไปยังกรุงแบกแดดปี 794
ออกเดินทางสู่อาหรับ[]
เมื่อมาถึงแล้วมิคุจินสาธยายกรุงแบกแดดในสมัยนั้น ไจแอนท์ว่ามิคุจินว่าเหมือนมากับครูสังคม มิคุจินงอนไปเลยและคิดว่าเป็นแค่ไกด์ชั้นสาม ต่อมาโนบิตะบอกว่าชิซุกะอยู่ในเรือค้าทาสจากความฝันของเขา ไจแอนท์บอกว่ามันไม่ใช่หรอก ส่วนซึเนะโอะบอกว่าเอายักษ์ในตะเกียงหรือปีศาจในโถ ไจแอนท์เลยเสริมว่าใช้พรมวิเศษก็ดี มิคุจินเลยบอกอมหัวเราะว่าของพวกนั้นไม่มีอยู่จริงหรอก เป็นแค่เรื่องแต่งขึ้นเท่านั้น ไจแอนท์เลยตวาดไปว่าน่ารำคาญจริง มิคุจินเลยบินหนีหายไป ต่อมาทุก คนพบกับพระราชาฮารุน อัล ราซิด โดราเอมอนใช้วุ้นแปลภาษาเพื่อให้คุยกันรู้เรื่อง
แต่ทว่าก็พบแก๊งแมงป่องนำโดยกาซิม พระราชาจึงเรียกพลให้ทหารมาจัดการกับแก๊งแมงป่อง สุดท้ายก็สามารถจับได้หมดยกเว้นกาซิม พระราชาจึงออกคำสั่งประกาศจับให้ทั่ว และให้โดราเอมอนและเพื่อน ๆ มาที่พระราชวัง เช้าวันต่อมา โดราเอมอนขอบคุณพระราชาที่ช่วยให้รอดพ้นอันตราย ส่วนพระราชาก็ขอบคุณที่พวกเขาเป็นตัวล่อโจร จากนั้นโดราเอมอนแนะนำตัวทุกคนโดยเขาชื่ออาบุโดรา โนบิตะคืออาลี ไจแอนท์คือฮัสซัน และซึเนะโอะคือคุมะซัน ซึ่งเป็นกลุ่มพ่อค้าจากญี่ปุ่น จากนั้นโนบิตะถามพระราชาเกี่ยวกับชิซุกะ และบอกว่าเขาฝันว่าเธอถูกจับอยู่บนเรือค้าทาส พระราชาเลยแนะนำว่าให้ไปที่บาสราซึ่งเป็นเมืองท่า และมอบใบเบิกทางเพื่อเป็นประโยชน์ในการเดินทาง
โดราเอมอนและโนบิตะไปถามว่าเคยเห็นหน้าเด็กผู้หญิงแบบในรูป (ชิซุกะ) ไหมก็ไม่มีใครรู้จัก ส่วนไจแอนท์และซึเนะโอะไปดูโชว์เป่าขลุ่ยกับงูเพราะเหนื่อยจากการถามหา แต่เมื่อไปถามคุณตาคนหนึ่งก็บอกว่าเคยเห็น และบอกว่าออกเรือค้าทาสเมื่อสิบวันก่อนไปทางตะวันออก และเสนอโดราเอมอนให้ซื้อเรือ ซึ่งเป็นเรือเก่า ๆ ขายถูก ๆ จากนั้นคุณตาก็ไปเอาลูกเรือมา ระหว่างนั้นพวกเขาก็ถูกทหารสอบสวนเลยเอาใบเบิกทางของพระราชาฮารุน อัล ราซิดให้ดู ที่ตรวจการเข้มเพราะได้ข่าวว่ากาซิมจะหนีออกนอกประเทศ จากนั้นคุณตาผู้นั้นรวบรวมลูกเรือมาได้แล้ว ซึ่งต่ละคนน่าตาดูไม่น่าไว้วางใจเลย จากนั้นก็เอาเรือลำนี้ออกจากท่า
ระหว่างที่เรือกำลังเคลื่อนที่ โนบิตะถามคุณตาว่าแล่นเรือเร็วกว่านี้ไม่ได้เหรอ คุณตาตอบว่าขึ้นกับลม ถ้าลมไม่แรงก็แล่นเร็วไม่ได้ โดราเอมอนเลยเอาพัดพระพายให้ไจแอนท์พัด แต่พัดแรงไปจนเรือเกือบจะพัง กาซิม (ที่ปลอมตัวเป็นคุณตา) กับหนึ่งในลูกเรือค้นพบแล้วว่ามีเครื่องมือมหัศจรรย์ คืนนั้นเมื่อจะเข้านอน ห้องพักฝุ่นเขลอะไม่สามารถเข้าไปนอนได้เลยเอาถุงนอนสไตล์ดักแด้ออกมาให้ทุกคน จอมโจรกาซิมจับได้ว่าความลับอยู่ตรงกระเป๋าหน้าท้อง โนบิตะฝันว่าชิซุกะถูกล่ามโซ่ไปกับทาสคนอื่น ๆ โนบิตะจะไปช่วย แต่น้ำก็พุ่งออกมาจากใต้ดิน ใช่แล้ว ถูกจับทิ้งลงน้ำ และกาซิมก็เผยโฉมหน้าตัวเองพร้อมส่งคำขอบคุณที่ทำให้หนีออกนอกประเทศได้ จากนั้นเมื่อกาซิมบังคับเรือหนีไปก็เกิดพายุใหญ่ขึ้น ทุกคนฝ่าพายุไปไม่ไหว แต่เช้าวันต่อมาก็มาโผล่ที่ชายฝั่งอย่างลึกลับ ซึเนะโอะเห็นแสงสีแดง ๆ ช่วยเอาไว้ แต่ไม่มีใครเชื่อ โดราเอมอนก็คิดว่าถ้าเป็นจริงโลกแห่งความจริงกับโลกแห่งจินตนาการคงเริ่มเชื่อมกันแล้ว แสดงว่าเข้ามาในโลกอาหรับราตรีได้แล้ว แต่หนทางยังยาวไกลเพราะข้างหน้าเป็นทะเลทรายกว้างสุดลูกหูลูกตา โดราเอมอนเลยจะเอาของวิเศษมาใช้ แต่ทว่ากระเป๋าสี่มิติหายไป!!! ไจแอนท์และซึเนะโอะว่าโดราเอมอนว่าไม่มีกระเป๋าก็เป็นแค่หุ่นเชย ๆ ธรรมดา ๆ เท่านั้น แต่โดราเอมอนก็คิดได้ว่าผ้าโพกหัวของเขา ซึ่งของมิคุจินมันไม่พอดีหัวเลยใช้ของตัวเอง สามารถทำอะไรได้ ซึ่งทำได้แค่เป่าขลุ่ยแล้วให้ผ้ามันยืดออกได้ ไจแอนท์ยิ่งโมโหที่มันทำได้แค่นี้
ผจญภัยในกระทะนรก[]
ทุกคนออกเดินทางกลางทะเลทรายไปทางเหนือเพื่ออาจเจอกองคาราวานก็ได้ เดินไปเดินมาโนบิตะเริ่มเดินไม่ไหวเลยเริ่มบอกว่าถ้ามีคอปเตอร์ไม้ไผ่คงไม่ค้องลำบาก ซึเนะโอะหวังว่าถ้ามีท่อประปายืดขยาย คงจะได้ดื่มน้ำ ไจแอนท์หวังว่าถ้ามีผ้าคลุมโต๊ะอาหารสารพัดนึกคงได้กินอะไรอย่างจุใจ โดราเอมอนโมโหจากที่ทุกคนประชดทางอ้อม และกำลังจะทะเลาะกับไจแอนท์และซึเนะโอะ แต่โนบิตะบอกว่าให้เย็นไว้ก่อน ทุกคนจึงสงบและซึเนะโอะบอกว่าที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะกาซิม
ซึ่งชะตากรรมก็ไม่น่าจะต่างกันเพราะเรือโทรม ๆ อย่างนั้นไม่มีทางฝ่าพายุไปได้ และอาจอยู่ในทะเลทรายเหมือนกัน ทางกาซิม มีลูกสมุนเหลืออยู่ 2 คน ขอน้ำ แต่กาซิมดื่มเองซะหมดทำให้ทั้งสองโวยวาย แต่กาซิมบอกว่าขโมยกระเป๋ามาแล้วอยากได้อะไรก็บอกได้เลย แต่ทุกคนใช้ของวิเศษไม่ถูกวิธีทำให้ไม่มีประโยชน์แม้แต่น้อย ทั้งสองบอกว่าจะไม่เป็นลูกน้องของกาซิมอีกแล้ว แต่เขาก็บอกว่ากำลังจะไปวังทองคำอยู่ ซึ่งเรื่องนี้ได้ยินมาจากอับจิลเพื่อนเก่าของเขา ซึ่งก็กำลังจะไปวังนั้นเหมือนกัน แต่ถ้าลูกน้องไม่เอาก็ปล่อยไปนะ ลูกน้องจึงต้องไปด้วยเพราะติดอยู่ในทะเลทรายมีแต่ตายกับตาย
ทางโดราเอมอนให้ซึเนะโอะมองดูรอบข้างโดยใช้ผ้าโพกหัว และไปพบกับทะเลสาบใหญ่เท่าทะเล แต่วิ่งไปเท่าไร ๆ ก็ไม่ถึงเพราะอาจเป็นแค่ภาพลวงตา ส่วนโนบิตะสลบไปเพราะเป็นลมแดดโดราเอมอนเลยให้ไจแอนท์แบกโนบิตะไปหลบที่ร่ม ๆ ส่วนซึเนะโอะเห็นโอเอซิส แต่ไม่เชื่อตาตัวเอง คิดว่าเป็นภาพลวงตา ที่โอเอซิสนั้นชิซุกะกำลังอาบน้ำอยู่ในสระน้ำซึ่งอับจิลที่เป็นผู้ค้าทาสบอกหลายครั้งว่าให้รีบขึ้นได้แล้วเพราะจะพาไปวังทองคำเพื่อขายให้พระราชาแถมเหลือทาสอยู่คนเดียว แต่ทว่า เมือมองไปก็พบว่าหนีไปแล้วจึงไปตามจับตัวมา แต่โชคร้ายที่พายุทรายมา
พระราชวังทองคำ[]
ทางโดราเอมอนใช้ผ้าโพกหัวเพื่อหลบพายุทราย คืนนั้นหลังจากที่พายุสงบลงทุกคนก็ออกมานอนข้างนอก ส่วนซึเนะโอะไปเห็นคนขี่ม้าหุ่นยนต์อยู่ แต่เพราะตาเขาเชื่อไม่ได้เลยไม่ได้บอกใคร วันต่อมาทุกคนก็ยังเดินทางต่อไปโดยไม่ทิ้งโนบิตะ สักพักก็มียักษ์ในขวดออกมาและพาทุกคนไปยังวังทองคำ เมื่อยักษ์ลงจอดในสวนในวังแล้วทุกคนพบกับบ่อน้ำเลยไปเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน โนบิตะก็ฟื้นจากลมแดดแล้ว ต่อมา ผีสิงโตออกอาละวาด แต่ที่จริงเป็นเจ้าของวังแห่งนี้ ชื่อว่าซินแบดนักเดินเรือ เมื่อโดราเอมอนจะถาม พระราชาซินแบดก็ว่าอยากรู้เรื่องทำไมถึงอยู่คนเดียวโดยไม่เหงา พระราชาบอกว่าเพราะเขาสนุกกับของวิเศษในที่แห่งนี้ ชิซุกะที่เดินวนเวียนอยู่ในทะเลทรายหวังว่าทุกคนจะมาช่วย แต่ทว่า
อับจิลมาพบรอยเท้าสด ๆ ใหม่ ๆ ที่วังทองคำ พระราชาก็แนะนำของวิเศษของเขารวมถึงยักษ์ในขวดด้วย และมียักษ์ในตะเกียงเป็นรุ่นที่เบากว่า เมื่อโดราเอมอนถูตะเกียงยักษ์ออกมาทั้ง ๆ ที่กำลังหลับและบินไปเลยโดยไม่ฟังคำสั่ง ต่อมาซึเนะโอะถามถึงเด็กผู้หญิง พระราชาเลยเอาพริตตี้มาเต้นโชว์ให้ทุกคนดู แต่บางตัวลานหมดต้องไขใหม่ ส่วนชิซุกะที่กำลังวิ่งหนี อับจิลตามมาทันพอดีและชิซุกะหกล้ม เลยจะเอาแส้เฆี่ยนตีเหตุทรยศเจ้านาย ที่วัง พระราชาแนะนำเมล็ดทหารซึ่งเมื่อโปรยเมล็ดลงไปจะกลายเป็นทหาร ส่วนยักษ์ในตะเกียงกลับมาและเข้าไปอยู่ในตะเกียง และทิ้งท้ายว่ามีผู้ชายไล่ตามเด็กผู้หญิง ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นชิซุกะซึ่งถูกพ่อค้าทาสจับเอาไว้ พระราชาเลยรีบเอาพรมวิเศษมาใช้เพื่อตรงไปหาเลย
อับจิลขอให้ชิซุกะสัญญาว่า "ข้าจะไม่หนีอีกเป็นครั้งที่สอง" แต่ชิซุกะไม่ให้เลยจะเฆี่ยน แต่แส้ถูกโดราเอมอนเอาไป จากนั้นทุกคนกระโดดลงมาเพื่อสู้กับอับจิลแต่ก็แพ้ไม่เป็นท่า พระราชาเลยโปรยเมล็ดทหารเพื่อจับตัวอับจิลได้สำเร็จ และชิซุกะก็ได้รับความช่วยเหลือ อับจิลบอกพระราชาว่าที่มาก็เพื่อเอาเด็กผู้หญิงมาขายให้พระราชาเพื่อตอนแทนบุญคุณที่ช่วยชีวิตไว้ครั้งก่อน แต่พระราชาไม่รับและกลับวังไปโดยให้น้ำกับเสบียงเอาไว้ อับจิลแค้นมากและคิดจะแก้แค้นให้สาสมเลย
เมื่อกลับถึงวัง ชิซุกะอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อย และพระราชาให้เอาอาหารเย็นมาเสิร์ฟ ทุกคนมีความสุขมาก พระราชาบอกว่าจะอยู่กี่วันก็ได้นะ แต่ถ้าจะกลับก็ขอให้กินยาลบความจำเพราะถ้าเรื่องวังทองคำรั่วไหลเมื่อไรก็จะมีคนโลภเข้ามายึดครองวังไป ถ้าของวิเศษไปอยู่ในมือพวกนั้นจะเป็นเรื่องใหญ่ ชิซุกะเลยสงสัยว่าทำไมอับจิลยังจำเรื่องที่นี่ได้ ซึเนะโอะเลยตั้งข้อสันนิษฐานว่าคงเป็นเพราะประทับใจสุด ๆ เลยลบไม่หมด พอกินกันเสร็จแล้วทุกคนก็แยกย้ายกันไปนอน
คืนนั้นโนบิตะได้ยินเสียงแปลก ๆ เลยปลุกโดราเอมอนขึ้นมาดูก็ไปพบพระราชาที่สระน้ำหมื่นลี้ที่สามารถมองเห็นคนอื่นได้ในระยะไกล แต่มันก็ไม่ดีแล้วต้องเคาะหลายครั้งถึงจะติด เมื่อติดแล้วเห็นภาพอับจิลกำลังหาทิศทางอยู่ แต่ไม่นานสระน้ำนี้ก็เสีย ซึ่งเป็นที่แน่นอนว่าอับจิลหมายปองวังทองคำนี้แน่ ๆ แต่กว่าจะถึงต้องเดินทางในทะเลทรายที่เรียกว่า "กระทะนรก" เป็นสิบวัน แต่คงไม่น่าจะทำได้หรอก ทางอับจิล กาซิมและลูกสมุนมาพบอับจิลที่กำลังกินอาหารอยู่ พวกเขาบอกว่าเดินไปเท่าไร ๆ ก็ไม่พบวังทองคำเลย แต่อับจิลไปได้เพราะรู้ความลับทั้งหมดของวังทองคำ เพราะตอนที่ซินแบดให้ดื่มยาทำให้ลืมเขาแกล้งดื่มและบ้วนทิ้งไป อับจิลเลยให้กาซิมเป็นลูกน้องเขาเพื่อไปยังวังทองคำ ตอนแรกกาซิมไม่ยอมแต่ลูกน้องบอกว่าเอาไปเถอะ ไม่งั้นตายในกระทะนรกแน่ เขาจึงยอม
การยึดวังของอับจิล[]
เช้าวันต่อมาอับจิลพาทุกคนไปยังทางลับที่เชื่อมกับอีกโลกหนึ่ง เมื่อออกมาก็พบกับวังทองคำอยู่ตรงหน้า ส่วนพระราชาเอาเรือทรายออกไปท่องทะเลทราย อับจิลและพวกจึงสบโอกาสเข้าไปในวัง แต่ก็ทำได้อย่างทุลักทุเล ระหว่างที่พวกนั้นกำลังหาทางเข้าไปในวัง เข็มกลัดเตือนภัยของพระราชาดังขึ้น แสดงว่ามีสิ่งผิดปกติเกิดในวังเลยหันเรือกลับ แต่ก็สายไปแล้วเพราะพวกนั้นเข้าไปในวังแล้ว และอับจิลและพวกยึดของวิเศษไปเกือบหมดแล้ว รวมถึงยักษ์ในขวด ซึ่งยักษ์ในตะเกียงที่ไจแอนท์หยิบมาสู้ไม่ได้แน่นอน
อับจิลและพวกคิดไม่ออกว่าจะจัดการกับพระราชายังไงเลยเอาทุกคนไปขังคุกใต้ดินก่อน และกินเลี้ยงกันอย่างสนุกสนาน ซึเนะโอะขอให้ยักษ์ในตะเกียงที่เฝ้าห้องขังให้พาออกไป แต่มันก็แลบลิ้นเพราะของวิเศษทุกอย่างจะฟังคำสั่งคนที่ใช้มันเท่านั้น โนบิตะเลยตัดพ้อว่าถ้ามีกระเป๋าวิเศษละก็ พระราชาเลยนึกขึ้นได้ว่าตอนผจญภัยครั้งที่ 7 ของเขา เรือของเขาอัปปางลงเพราะเจอพายุ แต่เขาก็สามารถช่วยเหลือชายผู้หนึ่งจากโลกอนาคตได้ ชายคนนั้นเลยตอบแทนโดยการสร้างวังทองคำและให้ของวิเศษกองเท่าภูเขา ทำให้พระราชามีความสุขมาก แต่ทั้งหมดก็ตกอยู่ในมือคนชั่วหมดแล้ว ทันใดนั้นเองมีลูกไฟประหลาดทำให้ยักษ์ในตะเกียงสลบไป ซึ่งเป็นผู้ที่ช่วยทุกคนตอนเจอพายุ นั่นคือ มิคุจิน ซึ่งตอนที่เขาไม่อยู่ก็ใช้ไทม์ทีวีดูอยู่ตลอด ทุกคนชื่นชมมิคุจินว่าเป็นไกด์ชั้นยอดเลย จากนั้นทุกคนก็หนีออกไปจากวัง เมื่อยักษ์ในตะเกียงได้สติก็รายงานอับจิลว่าพระราชาหนีไปแล้ว อับจิลจึงใช้เมล็ดทหารเฝ้ามอง และมิคุจินนึกขึ้นได้ว่าทางเข้าออกไทม์แมชชีนอยู่ในสวนในวัง! ซึ่งตอนนี้กลับเข้าไปในวังไม่ได้แล้วด้วย ไจแอนท์จึงต่อว่าอีกว่ามิคุจินเป็นไกด์ชั้นสาม แต่พระราชาบอกว่าใช้ทางลับหนีไปดีกว่าเพราะไม่งั้นถูกเจอเข้าแน่ อับจิลเลยบอกว่ายังไง ๆ ก็ตายในทะเลทรายแน่ ๆ
การต่อสู้ของพระราชา[]
วันต่อมาพระราชารู้สึกสิ้นหวังเพราะไม่ถนัดการเดินบนทะเลทราย โนบิตะผิดหวังว่าไม่เหมือนซินแบดที่เขาหลงรัก ไม่ใช่แค่เขาเท่านั้นเด็ก ๆ ทั้งโลกก็ด้วย พระราชาจึงฮึกเหิมอีกครั้งเพื่อไปเอาวังคืน ไจแอนท์นึกถึงกระเป๋าสี่มิติ มิคุจินเลยเอากระเป๋าที่กาซิมทำตกไว้ให้ และใช้ผ้าห่อของเหินฟ้า แม้จะไม่เท่แต่ก็ไปถึงวังได้ แต่กระนั้นก็ถูกเมล็ดทหารยิงจนร่วง เมื่อออกมาแล้วทุกคนก็หลบ ๆ ซ่อน ๆ เพราะเมล็ดทหารมีมากมายเหลือเกิน แต่ก็หาที่ซ่อนได้สำเร็จ ต่อมาโดราเอมอนปลอมตัวเป็นอับจิลโดยใช้เครื่องดื่มแปลงร่าง เมื่อยักษ์ในตะเกียงมาพบโดราเอมอนก็สั่งให้เอากล่องเมล็ดทหารมา เขาจึงไปเอามาจากอับจิลตัวจริงเพราะเขาสั่งไป แต่ก็นึกขึ้นได้ทีหลังว่ามีคนปลอมตัว แต่ก็สายไปแล้วเพราะโดราเอมอนทำให้ทหารกลับเป็นเมล็ดหมดแล้ว พระราชาเกือบจะยึดวังมาได้แล้ว แต่ยักษ์ในขวดยังอยู่ที่มืออับจิล ไม่มีใครรับมือได้เลย พระราชาก็ถูกตบออกไปอยู่นอกวัง ระหว่างที่ยักษ์กำลังจะเหยียบพระราชาโดราเอมอนใช้ไฟฉายย่อส่วนย่อให้เล็กเป็นเหมือนตุ๊กตา จากนั้นอับจิลควบคุมให้วังบินได้!!! ทุกคนเลยรีบบินขึ้นไปเพื่อที่จะตามวัง
พระราชาดวลดาบกับอับจิล ส่วนโดราเอมอนและเพื่อน ๆ คอปเตอร์ไม้ไผ่บินตามไม่ไหวเลยลงจอดที่สวนในวัง ระหว่างที่วังบินอยู่กาซิมและลูกน้องกำลังแบกถุงสมบัติอยู่ แต่ก็ไปไม่ไหว ส่วนม้าหุ่นยนต์ของพระราชารับไม่ไหวก็พังเป็นเสี่ยง ๆ พระราชาตกลงไปแต่ก็ยังปีนมาได้ และดวลดาบกันต่อ ส่วนกาซิมจับตัวชิซุกะเอาไว้ แต่ก็เอาไม่อยู่ ทุกคนรุมกันจัดการ และอับจิลเสียท่าตกลงไปในสวนโดราเอมอนเลยใช้จรวดตาข่ายเพื่อให้ลงมาได้อย่างปลอดภัย จากนั้นพระราชาเอาวังลงจอดและขังคนชั่วไว้ในคุกใต้ดิน ส่วนทุกคนก็จะกลับบ้านเพราะมีครอบครัว โนบิตะบอกว่าคราวหน้าจะเอาหนังสือนิทานซินแบดมาให้ดู มิคุจินเลยบอกว่าครั้งหน้าใช้บริษัทท่องเที่ยวเวลาได้อีกนะ ไจแอนท์ก็เลยบอกว่าครั้งหน้าเอาคนที่ว่าง่ายกว่านี้นะ มิคุจินก็งอนเพราะถูกว่าว่าดื้อ จากนั้นทุกคนก็ขึ้นไทม์แมชชีนกลับบ้าน
ตัวละคร (เรียงลำดับการปรากฏตัว)[]
- ซินแบด (หนังสือนิทานอาหรับราตรี)
- โดราเอมอน และ โนบิ โนบิตะ (ปรากฎตัวพร้อมกัน)
- โกดะ ทาเคชิ และ โฮเนคาว่า ซึเนโอะ (ปรากฎตัวพร้อมกัน)
- มินาโมโตะ ชิซุกะ
- ยักษ์ (แจ็คผู้ฆ่ายักษ์)
- แจ็ค (แจ็คผู้ฆ่ายักษ์)
- พิน็อคคิโอ (พิน็อคคิโอ)
- คุณปู่ของพิน็อคคิโอ (พิน็อคคิโอ)
- แอลเรียล (ลิตเติลเมอร์เมด)
- ผีญี่ปุ่นต่าง ๆ
- ราชินีชั่วร้าย (สโนว์ไวท์) และ แม่มดบ้านขนม (ฮันเซลและเกรเทล) (ปรากฎตัวพร้อมกัน)
- ยักษ์ในตะเกียง (อะลาดิน)
- โนบิ ทามาโกะ
- คุณแม่ของซึเนะโอะ
- คุณแม่ของชิซุกะ
- มิคุจิน
- พระราชาฮารุน อัล ราซิด
- ลูกสมุนแก๊งแมงป่อง
- กาซิม
- ทหารของพระราชาฮารุน อัล ราซิด
- พ่อค้าแม่ค้าที่บาสร่า
- อับจิล
- ซินแบดนักเดินเรือ
- ยักษ์ในขวด
- ยักษ์ในตะเกียง
- เมล็ดทหาร
ของวิเศษที่ใช้ (เรียงลำดับการปรากฏ)[]
- รองเท้าเข้าไปในนิทาน
- คอปเตอร์ไม้ไผ่
- สารานุกรมครอบจักรวาล
- ไทม์แมชชีน
- พัดพระพาย
- ถุงนอนสไตล์ดักแด้
- หมวกผ้าโพกหัวว่าง่าย
- ท่อประปายืดขยาย (ใช้โดยกาซิม)
- ผ้าปูโต๊ะอาหารสารพัดนึก (ใช้โดยกาซิม)
- ผ้าห่อของเหินฟ้า
- ห่วงผ่านตลอด
- เครื่องดื่มแปลงร่าง
- ไฟฉายย่อส่วน
- จรวดตาข่าย
นักพากย์ญี่ปุ่น[]
ตัวละคร | นักพากย์ |
---|---|
โดราเอมอน | Nobuyo Ōyama |
โนบิ โนบิตะ | Noriko Ohara |
มินาโมโตะ ชิซุกะ | Michiko Nomura |
โฮเนคาว่า ซึเนโอะ | Kaneta Kimotsuki |
โกดะ ทาเคชิ | Kazuya Tatekabe |
โนบิ ทามาโกะ | Sachiko Chijimatsu |
คุณแม่ของชิซุกะ | Masako Matsubara |
คุณแม่ของซึเนโอะ | Mari Yokoo |
ซินแบดนักเดินเรือ | Osamu Saka |
มิคุจิน (มิจจิน) | Minori Matsushima |
กาซิม | Osamu Kato |
ลูกสมุนของกาซิม | Reizo Nomoto Takashi Taguchi |
อับจิล | Seizo Katou |
ทหารของพระราชาฮารุน อัล ราซิด | Shozo Iizuka |
พระราชาฮารุน อัล ราซิด | Jun Hazumi |
ยักษ์ในตะเกียง | Teiyu Ichiryusai |
ยักษ์ในขวด | Daisuke Gouri |
คิวทาโร่ | Fusako Amachi |
ซินแบดตอนหนุ่ม | Hirohiko Kakegawa |
แจ็ค | Hiroko Emori |
นางฟ้า | Yoshino Takamori |
แม่มด | Kyoko Yamada |
พ่อค้าแม่ค้าในบาสรา | Masayuki Sato Koichi Hashimoto Ryoichi Tanaka |
รูปภาพ[]
|